วันจันทร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2560

E-Squared Nine Do-It-Yourself : Energy Experiments that Prove Your Thoughts Create Your Reality (ภาค 1)

New York Times Bestseller

Author : Pam Grout

Publisher : Hay House Insight

Published : Jan 28, 2013



           Pam Grout เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกสาวหนึ่งคน อาศัยอยู่ที่เมือง Lawrence Kansas city เธอเป็น freelance Writer เขียนหนังสือมาแล้วทั้งหมด 17 เล่ม บทละครเวที 3 เรื่อง บทละครทีวีซีรี่ย์ 1 เรื่อง และเขียนบทความลงนิตยสารชั้นนำของสหรัฐอเมริกา เช่น People Magazine, CNN, Huffington Post เป็นต้น หนังสือ E-Squared Nine Do-It-Yourself : Energy Experiments that Prove Your Thoughts Create Your Reality เล่มที่ดิฉันนำมาสรุปนี้ ติดอันดับ New York Time Bestseller อย่างรวดเร็ว เมื่อหนังสือตีพิมพ์ในปี 2556 ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 30 ภาษา ดิฉันรู้สึกแปลกใจมากที่ไม่มีสำนักพิมพ์ใดของไทย ซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้มาแปล  ดิฉันจึงสนใจอยากจะสรุปเนื้อหาสำคัญของหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ 2 ลงในเฟสบุ๊คเพจ ReadmoreLivemore อ่านเยอะ ชีวิตใหญ่

     หนังสือเล่มนี้ทำให้เราเข้าใจ Quantum Physic ที่ว่าด้วยพลังแห่งเจตจำนง (Power of Intention) ได้ง่ายๆด้วยตัวเราเอง โดยท้าทายเราให้ทำการทดลอง 9 อย่าง เพื่อให้เราประจักษ์แจ้งว่า ความคิดของเราสร้างความจริงขึ้นมาในชีวิต (Your thoughts create your reality)โดยไม่ต้องไปอ่านหนังสือ Intention Experiment : Using Your Thoughts to Change Your Life and The World ที่ Lynne McTaggart เขียนเอาไว้ในภาค Quantum Physic แบบเข้มข้นแล้วก็อ่านยากพอควร

ชุมชนคน comment หนังสือแบบมืออาชีพในเว็บอะเมซอน เข้าไปวิจารณ์หนังสือ E-Squared เล่มนี้กันถึง 3,276 คน และได้คะแนน 4.4 เต็ม 5 ซึ่งต้องบอกเลยว่า ไม่ธรรมดาเลย ที่จะมีหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งมีคนเข้าไป Comment ขนาดนี้ แล้วยังได้คะแนนสูงเช่นนี้  มาเริ่มกันเลยค่ะ

“Everyone who is seriously involved in the pursuit of science becomes convinced that a spirit is manifest in the law of the universe – a spirit vastly superior to that of man.”                                                               -Albert Einstein, German Theoretical Physicist-

ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้คือพลังงาน สสารที่เรามองเห็นแท้จริงแล้ว คือการสั่นสะเทือนของพลังงานที่มีรูปแบบเฉพาะจนเกิด energy fabric(ใยความหนาแน่นของพลังงาน) ที่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์สัมผัสได้ แต่เมื่อแยกแยะสสารลงไปเรื่อยๆในระดับ sub-atomic กลับพบว่า มันมีแต่พลังงาน นึกถึงการระเบิดของ Big Bang สิคะ พลังงานจากการระเบิดครั้งใหญ่นั้น ก่อกำเนิดสสารทุกอย่างของจักรวาล

Quantum Physic ให้ความหมาย สนามพลังงานแห่งความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด(The Field of Infinite Potentiality) ว่าคือ พลังไร้การมองเห็นที่มีการเคลื่อนไหว (Invisible moving force) ซึ่งมีอิทธิพลต่อการสร้างอาณาจักรทางกายภาพ (The Physical Realm) ทุกสิ่งในจักรวาลเชื่อมโยงกับสนามพลังงานนี้ แต่ด้วยมนุษย์ยังคงดำเนินชีวิตภายใต้หลักความเชื่อของกลศาสตร์ดั้งเดิม คือกลศาสตร์นิวตัน ซึ่งให้ความสำคัญกับการเคลื่อนที่ของสสาร อีกนัยหนึ่งคือ ให้ความสำคัญกับอาณาจักรทางกายภาพก่อน สนามพลังงานแห่งความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด  มนุษย์จึงไม่เคยเรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงพลังความคิดของตัวเองเข้ากับสนามพลังของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดนี้ (IP = Infinite Possibilities)Pam บอกว่า จักรวาลนี้มีความบริบูรณ์สำหรับการสร้างทุกความเป็นไปได้ของอาณาจักรทางกายภาพจากพลังงานความคิด ความเชื่อของมนุษย์ทุกคน แค่คุณต้องเชื่อและเชื่อมกับพลังงานนี้เท่านั้น ความเชื่อของคุณสร้างความเป็นจริงในชีวิต กฎทางจิตวิญญาณนี้เป็นจริงเสมอเหมือนกับกฎทางฟิสิกส์อื่น บทสรุปกฎทางจิตวิญญาณทั้งหมดจากการทดลอง 9 อย่างในหนังสือเล่มนี้มีดังนี้ค่ะ

1. มีสนามพลังงานที่ไร้การมองเห็นที่เรียกว่า สนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด (IP)   (There is an invisible energy force or field of infinite possibilities)

2. คุณสร้างผลกระทบต่อสนามพลังงานนี้และดึงดูดความเป็นจริงทางกายภาพเข้ามาสู่ชีวิต ตามความเชื่อและความคาดหวัง   (You impact the field and draw from it according to your beliefs and expectations)

3. คุณเองไม่ใช่อื่นใด นอกจากสนามพลังงาน   (You, too, are a field of energy)

4. อะไรก็ตามที่คุณเพ่งความสนใจ จะงอกงามขยายตัวเสมอ   (Whatever you focus on expands)

5. การเชื่อมโยงของคุณกับสนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด จะมอบเข็มทิศนำทางที่แม่นยำและไม่จำกัดให้คุณเสมอ   (Your connection to the field provides accurate and unlimited guidance)

6. ความคิดและจิตสำนึกของคุณ ส่งผลกระทบต่อความเป็นจริงทางกายภาพ   (Your thoughts and consciousness impact matter)

7. ความคิดและจิตสำนึกของคุณ มอบโครงสร้างค้ำจุน(คล้ายๆนั่งร้านก่อสร้างตึกค่ะ)ให้กับความเป็นจริงทางกายภาพ   (Your thoughts and consciousness provide the scaffolding for your physical body)

8. คุณเชื่อมต่อกับทุกสิ่งและทุกคนในจักรวาล      (You are connected to everything and everyone else in the universe)

9. จักรวาลไร้ขีดจำกัด บริบูรณ์ และ ร่วมมือกับคุณอย่างน่าประหลาด   (The universe is limitless, abundant, and strangely accommodating)

แต่มันเป็นเพราะอะไรกันเล่าที่ทำให้มนุษย์ติดต่อเชื่อมโยงกับสนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดนี้ได้ไม่ดีนัก เหมือนปลั๊กไฟที่หลวมไม่พอดีกับเต้ารับ Pam อธิบายสาเหตุ 6 ประการไว้ดังนี้ค่ะ

1. เราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันขณะ (We're not really here) "ชั่วขณะนี้" คือจุดที่พลังงานแสดงผล ดังนั้นทุกคนจึงควรฝึกการตระหนักรู้ ณ ปัจจุบันขณะ

2. เราชอบใส่ป้ายชื่อให้มันว่ายาก (We've named it difficult) จริงๆแล้วพลังในการสร้างความจริงจากความคิดมันเป็นเรื่องง่ายๆยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก แต่เราไม่เชื่อมันมากพอ

3. มนุษย์ชอบสะกดรอยติดตามแต่เรื่องลบ (We stalk negativity) เราศึกษาแต่ปัญหา โรคภัย หายนะต่างๆในอดีต ด้านลบก็มีคู่ตรงข้ามของมันคือด้านบวก เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน อีกด้านของความขาดแคลนคือความบริบูรณ์ อีกด้านของความเจ็บป่วยคือความมีสุขภาพที่ดี ด้วยการเลือกเพ่งพลังงานมองที่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็เสมือนถูกบังไว้ โชคร้ายที่คุณอาศัยอยู่ในจิตสำนึกที่อ้างอิงด้วยสถานที่และเวลา (Consciousness of space and time) คุณจึงสามารถสังเกตเหตุการณ์ได้ทีละอย่างเท่านั้น คำถามก็คือ คุณเลือกที่จะเพ่งความคิดของคุณอยู่ที่ด้านไหนของเหรียญ บวกหรือลบ

4. โอ้พระเจ้า จอร์จ เราเข้าใจมันแล้ว (By George, we think we've got it) ด้วยความรอบรู้ ปริญญาหลายใบของเราที่แขวนอยู่เต็มผนังบ้าน ทำให้เมื่อเราปักใจเชื่อในอะไรแล้ว เราก็จะไม่ตั้งคำถามอะไรกับมันอีก มันกลายเป็นความจริงในชีวิตเรา จนเป็นอะไรอื่นไม่ได้อีกเลย ซึ่งความเชื่อที่จำกัดนี้แหละที่ขัดขวางการปฏิสัมพันธ์กับสนามพลังของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด

5. จิตใจคุณทรงพลังมาก จนสามารถสร้างบางสิ่งที่ทรงพลังมากกว่า ภายนอกจิตใจ (The mind is so powerful it can create something "outside" itself to be more powerful) นี่คือเหตุผลที่สำคัญมากที่ในระหว่างการทำการทดลองทั้ง 9 การทดลองนี้ ขอให้คุณปล่อยวางความเชื่อเดิม การตัดสินต่างๆที่มันจะเข้ามามีอิทธิพลต่อการสำแดงกฎทางจิตวิญญาณที่เรากำลังพิสูจน์มัน 
     
6. เราไม่เคยได้ฝึกฝนอย่างจริงจังเลย (We haven't really practiced) การฝึกฝนใช้ชีวิตเชื่อมต่อกับสนามพลังงานแห่งความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดนั้นไม่ใช่การฝึกหัดด้วยสติปัญญา(Intellectual exercise) แต่มันคือการฝึก"เป็น"การหยั่งรู้ด้วยปัญญาญาณ เหมือนที่ Tiger Wood ฝึกการหยั่งรู้ด้วยปัญญาญาณตั้งแต่เขาอายุ 2 ขวบว่า เขาจะชนะการแข่งขันกอล์ฟรายการ US Amateur Championship

Pam บอกว่า เธอจำไม่ได้แล้ว่าเริ่มทำการทดลอง do-it-yourself เพื่อพิสูจน์ว่าความคิดสร้างความจริงในชีวิตตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอเริ่มด้วยการทดลองง่ายๆ ก่อน เช่นได้ที่จอดรถในตำแหน่งที่ดี พบตะปูตัวเล็กจิ๋วที่หล่นหายไปในความมืด จนกระทั่งเธอเริ่มเพ่งความคิดไปที่สิ่งที่เธอต้องการมากขึ้น เช่น ได้ date กับหนุ่มร้อนแรง ได้ท่องเที่ยวพร้อมกับทำงานไปในที่ที่เธอส่งพลังความต้องการเชื่อมต่อกับสนาม IP ได้รถยนต์ Toyota Prius จากนั้นเธอก็คิดว่า ถึงเวลาที่เธอจะเริ่มแบ่งปันการทดลองที่เธอทำให้กับผู้คน นี่คือที่มาของหนังสือเล่มนี้ 

      เธอบอกว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเข้าใจกฎจักรวาลข้อนี้ ไม่ใช่ด้วยการอ่านหนังสือ ฟังสัมมนา แต่คือการลงมือทำเพื่อเห็นผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นการปลดปล่อยคุณออกจากความเชื่อแบบ Newtonian Physic ที่ให้ความสำคัญที่สิ่งที่จับต้องได้เท่านั้น

     ใน 21 วันข้างหน้าโดยประมาณ ในการทำการทดลอง 9 อย่าง เพื่อพิสูจน์ว่า ความคิด ความเชื่อของคุณสร้างความจริงขึ้นมาในชีวิต คุณมีโอกาสที่จะได้พัฒนาความสัมพันธ์อย่างตระหนักชัดกับสนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดนี้ และเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนมันให้เป็นสิ่งที่ใจคุณปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นความสงบสุข เงิน หรืออาชีพที่ก้าวหน้า

การทดลองทั้ง 9 อย่างในหนังสือเล่มนี้ ส่วนใหญ่ใช้เวลาในการทำไม่เกิน 48 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้น ไม่ต้องใช้เงิน ซึ่งจะพิสูจน์ให้คุณเห็นด้วยตัวคุณเองว่า สนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดนี้ (IP) เหมือนกับกระแสไฟฟ้า คือ พึ่งพาได้ คาดเดาได้ และ มีให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลกนี้อย่างบริบูรณ์ แต่มันก็เหมือนกระแสไฟฟ้าในมุมที่ว่า คุณต้องเสียบปลั๊กเชื่อมต่อกับสนามนี้ตลอดเวลา เพื่อที่จะให้กฎจักรวาลข้อนี้มีประสิทธิภาพ คุณต้องฝังความเชื่อให้ลึกสุดใจเลยว่า จักรวาลนี้อุดมสมบูรณ์ บริบูรณ์พอสำหรับทุกคน  ในระหว่างทำการทดลอง ให้ปล่อยวางความคิด ความเชื่อในเชิงลบต่อตัวเองลง เปิดใจให้กับความเป็นไปได้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดซึ่งรอคอยคุณเชื่อมต่อ ฝึกสมาธิ ฝึกการอยู่กับปัจจุบันในช่วงเวลานี้จะดีมาก(ความคิดเห็นส่วนตัวของดิฉันนะคะ) คุณพร้อมหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มการทดลองทั้ง 9 อย่างกันเลยค่ะ

การทดลองที่ 1 : The Dude Abides Principle

ทฤษฎี : มีสนามพลังงานที่ไร้การมองเห็นที่เรียกว่า สนามพลังงานของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัด (IP) และมันมีไว้เพื่อให้คุณขอสิ่งใดที่ปรารถนา

คำถาม : สนามพลังของความเป็นไปได้ไร้ขีดจำกัดมีจริงหรือ

สมมุติฐาน : ถ้ามีสนามพลัง IP พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ให้ฉันสามารถเชื่อมต่อได้ตลอดเวลา แค่เพียงฉันเพ่งความตั้งใจ ในการทดลองนี้ ให้คุณขอพร หรือของขวัญที่ไม่คาดฝันจากสนามพลัง IP นี้ โดยบ่งบอกระยะเวลาที่ชัดเจน และคำสั่งชัดเจน คุณจะได้รับของขวัญชิ้นนั้น พร้อมกับคำว่า ด้วยความยินดีจากสนามพลัง IP

เวลาที่ต้องการ : 48 ชั่วโมง

วันที่เริ่มการทดลอง : _________________________  เวลา ______________________

วันสิ้นสุดการทดลองที่จะได้รับพร/ของขวัญ : __________________________________

บันทึกข้อสังเกต : ______________________________________________________________________________________________________________________________
     ______________________________________________________________________ 

การทดลองที่ 2 : The Volkswagen Jetta Principle

ทฤษฎี : คุณสร้างผลกระทบต่อสนามพลังงานนี้และดึงดูดความเป็นจริงทางกายภาพเข้ามาสู่ชีวิต ตามความเชื่อและความคาดหวัง

คำถาม : ฉันจะได้เห็นเฉพาะในสิ่งที่ฉันคาดหวังว่าจะได้เห็นจริงหรือ

สมมุติฐาน : ใน 24 ชั่วโมงแรก คุณจะมองหาแต่รถสี _____________(เลือกสีรถแล้วแต่คุณเลยค่ะ)                  
                        ใน 24 ชั่วโมงถัดมา คุณจะมองหาแต่ผีเสื้อสีเหลือง หรือขนนกสีม่วง (อย่างใดอย่างหนึ่ง)


เวลาที่ต้องการ : 48 ชั่วโมง

     วันที่เริ่มการทดลอง : _________________________  เวลา ______________________
      A.      จำนวนรถสี___________ ที่คุณเห็น__________________คัน
      B.      จำนวนผีเสื้อสีเหลืองหรือขนนกสีม่วงที่คุณเห็น_____________ตัว/อัน

บันทึกข้อสังเกต : ______________________________________________________
     _____________________________________________________________________
     _____________________________________________________________________
    
ารทดลองที่ 3 : The Alby Einstein Principle
     ทฤษฎี : คุณเองไม่ใช่อื่นใด นอกจากสนามพลังงาน ที่เชื่อมโยงอยู่ในสนามพลังงานที่ใหญ่กว่า

     คำถาม : มันเป็นความจริงหรือที่ตัวฉันสร้างประกอบไปด้วยพลังงาน

     สมมุติฐาน : ถ้าฉันเป็นพลังงาน ฉันย่อมสามารถกำกับพลังงานของฉันเองได้ ในการทดลองนี้คุณจะพิสูจน์ว่าความคิดและความรู้สึกของคุณ สร้างคลื่นพลังงานได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือ หาไม้แขวนเสื้อเก่าๆที่ทำด้วยลวดมา 2 อัน ใช้คีมคลายลวดที่พันตรงตำแหน่งคอไม้แขวนเสื้อออกทั้งสองอัน ยืดลวดไม้แขวนเสื้อออกเป็นเส้นตรง จากนั้น งอลวดทังสองอันให้เป็นรูปตัว L โดยให้ฐานตัว L ยาวประมาณ 5 นิ้ว ส่วนที่ตั้งฉากกับฐานตัว L ยาวประมาณ 12 นิ้ว จากนั้นเอาหลอดกาแฟตัดให้ได้ความยาวประมาณ 4 นิ้ว 2 อัน สวมเข้าที่ลวดตำแหน่งฐานตัว L ทั้งสองอัน เพื่อใช้มือจับได้ งอปลายลวดตรงฐานตัว L เพื่อกันไม่ให้หลอดกาแฟหลุดจากฐาน เท่านี้คุณก็จะได้ ไม้ไอน์สไตน์กายสิทธิ์ 2 อันแล้วค่ะ (ดูรูปประกอบ)

     จากนั้นถือไม้กายสิทธิ์ทั้งอันในระดับอก ห่างจากร่างกายประมาณ 10 นิ้ว คุณจะเห็นไม้กายสิทธิ์จะส่ายไปมา ให้เวลาสักพัก จนเมื่อไม้กายสิทธิ์หยุดนิ่ง ตอนนี้ละค่ะที่คุณเริ่มทำการทดลองที่ 3 ได้
     ให้ทอดสายตาตรงไปข้างหน้า นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต ที่ทำให้คุณรู้สึกไม่พอใจ ทุกข์ เศร้าใจ ขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นของความรู้สึกของเหตุการณ์ คุณจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของไม้กายสิทธิ์ ถ้าระดับความเข้มข้นเหตุการณ์ไม่มากนัก ไม้กายสิทธิ์ของคุณจะอยู่ที่ตำแหน่งตรงๆนิ่งๆ แต่ถ้าระดับความเข้มข้นของเหตุการณ์สูงมาก คุณจะเห็นปลายไม้กายสิทธิ์ทั้งสองอันเอียงเข้าหากัน ด้านใน โดยเอาปลายมาแตะกัน อันเนื่องมาจากคลื่นพลังงานลบที่คุณแผ่ออกมาจากการคิดเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจ
     ต่อไป ให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเช่นกัน แต่คราวนี้เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คุณสุข เบิกบานใจ มีชีวิตชีวา คราวนี้ไม้กายสิทธิ์ทั้งสองอันจะหันปลายห่างออกจากกัน อันเนื่องมาจากพลังงานที่ไหลเวียนของคุณเป็นบวก
     ต่อไป ให้คุณยังคงมองตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม แต่ให้เพ่งความคิด ความสนใจไปที่วัตถุใดหนึ่งอย่าง ที่อยู่ไกลสุดทางขวา หรือทางซ้ายมือของคุณ แล้วสังเกตการณ์เคลื่อนที่ของไม้กายสิทธ์ตามทิศของความคิดคุณ ยิ่งคุณฝึกฝนการทดลองนี้มากเท่าไร คุณก็จะเริ่มเชี่ยวชาญในการเป็นผู้เคลื่อนย้ายพลังงานตามความคิดได้มากเท่านั้น

     เวลาที่ต้องการ : 2 ชั่วโมง

     วันที่เริ่มการทดลอง : ________________เวลา ______________________
       
     บันทึกข้อสังเกต : _____________________________________________________
     ___________________________________________________________________
     ___________________________________________________________________
    
     



สำหรับภาคที่ 1 สรุปการทดลอง 3 การทดลองก่อนนะคะ จะได้ไม่เยอะเกินไป ให้คุณมีเวลาไปทำการทดลองสัก 5 วันก่อน แล้วค่อยมาอ่านบทสรุปการทดลองที่เหลือนะคะ

ด้วยความรู้สึกที่ดี
ReadmoreLivemore
อ่านเยอะ ชีวิตใหญ่

2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณมากค่ะ รอติดตามภาค2ค่ะ.

    ระหว่างนี้จะทดลองทำตามคำแนะนำนะคะ

    ปกติสนใจเรื่องquantum physic อยู่แล้ว ชอบงานของ ฟริตจ็อบ คราป้าค่ะ

    ตอบลบ
  2. ภาคที่สอง โพสต์แล้วนะคะ ดิฉันทดลองทำการทดลองที่ 2 ไปแล้วค่ะ น่าทึ่งมาก ได้เห็นผีเสื้อสีเหลืองบินตัดหน้ารถอย่างกระชั้นชิด ขอบคุณที่ติดตามเป็นกำลังใจให้กับเพจ ReadmoreLivemore อ่านเยอะ ชีวิตใหญ่ ทาง Facebook นะคะ ❤️❤️

    ตอบลบ